Aa
Aa
Aa

  8:34


  แสงเเดดที่ส่องเข้ามาใต้ผ้าม่าน เป็นดั่งเเสงสว่างที่จะช่วยปลุกคนที่เอาเเต่นอนหลับอุตุบนโซฟาให้ตื่นจากฝันหวาน


  "อืม เช้าเเล้วเหรอเนี่ย" ฉันบิดตัวไปมาเพื่อไล่อาการปวดเหมื่อย เเละกวาดสายตาไปรอบๆ ห้องเพราะบรรยากาศที่ไม่คุ้นชิน ก่อนสายตาจะไปหยุดอยู่ที่ ร่างบางของท่านประธานในชุดคนไข้ที่นั่งพิงหัวเตียงเเละจ้องมองมาที่ฉัน


  "อรุณสวัสดิ์ค่ะท่านประธาน" เมื่อโดนจ้อง ปากของฉันพูดอรุณสวัสดิ์ขึ้นไปทันที


  ประธานที่นั่งอยู่บนเตียงขมวดคิ้วขึ้นเล็กน้อย ก่อนจะพูดกลับมาว่า "อรุณสวัสดิ์"


  "กรี๊ด" เสียงกรี๊ดเเปดหลอดของฉันดังขึ้นทันที โดยที่ประธานก็ยกมือมาปิดไว้ที่หูอย่างตกใจ


  "บ้า" เสียงนิ่งของท่านประธานพูดขึ้น พร้อมจ้องมองมาที่ฉันอย่างเอาเรื่อง


  "กะ "


  "ห้าม เสียง ดัง "ประธานสาวพูดเน้นเสียงทีละคำเพื่อหยุดการกระทำอันน่าปวดหัวของลูกน้องตัวเอง


  "ขอโทษค่ะ ท่าน พอดีตื่นเต้นเกินไปหน่อย" ฉันยิ้มแห้งๆ เเละตอบประธานไปอย่างเขินอาย


  "อา "ประธานสาวครางเสียงตอบอย่างส่งๆ เพราะเดิมทีตัวเองนั้นไม่ชอบพูดกับคนเเปลกหน้าอยู่เเล้ว เลยไม่รู้จะคุยอะไรกับพนักงานคนนี้ดี


  "ประธานขา พูดเยอะๆ สิคะ" ฉันเดินไปใกล้ๆ ประธานโอกาสเจอกันใกล้ๆ ไม่ได้มีมาบ่อยขอชื่นชมอีกนิดนะคะ ฉันคิดอย่างได้ใจ


  สุดท้ายเรามาจบที่โรงพยาบาลหรือเนี่ยเเค่คิดจะนอนพักเฉยๆ เเท้ๆ ดันหมดเเรงหายใจไม่ออก เสียงก็ไม่มีนึกว่าจะตายซะเเล้ว ไม่น่าทำเก่งไล่ให้หยกกลับไปก่อนเลย เราเกือบทำตัวเองตายในบริษัทของตัวเองเนี่ยนะต้องเป็นข่าวใหญ่เเน่เลย สลบไปกี่ครั้งกันนะทำไมเรามาอยู่ที่นี่


  พอตื่นขึ้นเราก็รวบรวมสติเเละใช้ความพยายามจนลุกขึ้นนั่งได้สำเร็จ สายตาของเราก็ไปเจอเข้ากับผู้หญิงคนหนึ่งที่กำลังนอนหลับอย่างสบายอยู่ที่โซฟา ไม่น่าเชื่อว่าเราจะนั่งจ้องหน้าผู้หญิงคนนั้นมาเรื่อยๆ จนเธอตื่น คนนี้อีกเเล้ว?


  เธอเป็นพนักงานในบริษัทของเรา เเละดูท่าทางจะไม่ค่อยปกติดีเท่าไร เเถมตื่นมาก็เดินตรงมาหาด้วยสายตาโรคจิตเเบบนั้น


  "ประธานขา อย่าพึ่งลุกสิคะ"ฉันพูดด้วยเสียงอันยั่วยวนพร้อมทั้งเดินเข้ามาใกล้คนบนเตียงเรื่อยๆ จากเหตุการณ์เมื่อคืนทำให้ฉันรู้เเล้วว่าเรื่องไม่คาดคิดเกิดขึ้นได้เสมอ จะเอาเเต่แอบรักต่อไปคนที่เจ็บน่ะคือฉันเพราะงั้นขอลองเดิมพันกับความรู้สึกครั้งนี้เลยเเล้วกัน


  "ยะ อย่าเข้ามานะ" ตรงข้ามกันร่างท่านประธานก็ถอยหลังจนชิดขอบเตียงอย่างหวาดหวั่นสายตาเเบบนั้น


  "ประธานคะ อย่าหันหน้าหนีสิคะ"ฉันใช้มือจับหน้าประธานให้หันกลับมาจ้องตากัน


  "ปะ ปล่อยนะ"เมย์ปัดมืออีกฝ่ายออกด้วยใบหน้าที่ขึ้นสีเเดง พอมองใกล้ๆ ยัยนี่มัน ใช่จริงๆ ด้วย


  "ประธานขา อย่าทำท่าทางน่ารักๆ เเบบนี้สิคะ” เเฟนคลับคนนี้แอบชอบท่านจนจะเป็นบ้าเเล้วนะคะ


  "ก็อย่ามองสิ" เมย์ตอบพร้อมนึกถึงรักเเรกของตน


  "ถ้าจับประธานกดกับเตียงโรงพยาบาล จะโดนไล่ออกไหมคะ" ฉันส่งยิ้มให้ท่านประธาน ทำไมฉันรุกเเรงจังหลังจากผ่านเหตุการณ์เสี่ยงตายมาฉันคิดว่ามีอะไรรีบๆ พูด รีบๆ ทำ จะดีกว่าการไม่มีโอกาสให้ทำ


  "ไล่ออก ไล่ออกฉันไล่เธอออกตอนนี้เลย"เมย์พูดจบก็ผลักอีกคนออกห่างจากตัวทันที


  "ดีใจจัง"ฉันยิ้มหวานออกมาทันที


  "เธอ บ้า ไล่ออกเเล้วยังมีหน้ามายิ้มอีก" เมย์ตะโกนออกไปด้วยสีหน้าไม่สบอารมณ์


  "ถ้าฉันบ้าก็เป็นความผิดของคุณนั้นเเหละท่านประธาน" ฉันได้เเต่บ่นอุบอิบอยู่คนเดียว


  "บ่นอะไรของเธอฮะ เราได้ยินนะ"


  "ไม่มีอะไรค่ะ ฉันเเค่พูดคนเดียว เเค่คิดว่าเสียใจเเต่ก็ดีใจอยู่ดีค่ะ"ฉันตอบท่านประธานไปเเต่ดูเหมือนอีกฝ่ายจะงงไม่น้อย


  "ฉันเคยคิดเรื่องนี้มาตั้งเเต่เริ่มเข้าทำงานช่วงเเรกๆ เเล้ว ตอนไปสมัครเเละเตรียมเข้าห้องสัมภาษณ์งานกับนักศึกษาจบใหม่อีกหลายคน เวลาตอนนั้นผ่านไปรวดเร็วมาก จากคิวที่1ก็มาถึงคิวที่24ซึ่งเป็นคิวของฉัน ก้าวเเรกที่เข้าไปในห้องสัมภาษณ์ มีกรรมการอยู่3ท่านหนึ่งในนั้นคือประธานของยูเอกรุ๊ปคุณนั้นเเหละ เเว่บเเรกที่ฉันเห็นหน้าคุณฉันในตอนนั้นก็ใจเต้นอย่างไม่เคยเป็นมาก่อนเเถมคุณยังเป็นรุ่นพี่ที่เคยแอบมองสมัยเด็กพูดไปก็น่าเศร้านะ เพราะเอาเเต่มองท่านประธาน บทพูดที่เคยซ้อมมา ฉันไม่เเม้เเต่จะพูดหรือยกมือไหว้กรรมการด้วยซ้ำ คนอื่นได้เวลาสัมภาษณ์กันคนละ30นาที เเต่ฉันมองคุณไป5นาทีเเล้วไม่พอโดนถามเเค่2-3คำถามเเละได้ออกมาเลย เเต่เรื่องไม่น่าเชื่อก็เกิดขึ้นอีก วันประกาศผลสัมภาษณ์มีสายโทรเข้ามาเเละบอกว่าฉันผ่านงานเเละให้เริ่มมาทำงานในวันพรุ่งนี้ ตอนนั้นจำได้ว่าดีใจวิ่งรอบบ้านจนเเทบเป็นบ้า ตั้งเเต่วันนั้นจนวันนี้ฉันก็เเอบไปเฝ้าดูประธานทุกครั้งที่มีโอกาส รับทุกงานที่ได้เดินผ่านหน้าห้องประธานเลยนะ ฮ่าๆ เป็นหนักมากเลยนะฉันเนี่ย" ฉันพูดออกไปพร้อมบีบมือท่านประธานไปมา

Comment

  • ไม่มีคอมเม้น