Aa
Aa
Aa

เช้านี้อากาศแจ่มใส ใสปิ๊งๆ กิ๊งๆ และร้อนมาก ยูวีเอและยูวีบีสาดรังสีส่องทั่วหน้า ทำเอาต้องก้มหน้าหลบกันเลยทีเดียว


ผมเดินตากแดดจากคอนโดลงมาเซเว่นเพื่อหาของกิน ตอนแรกๆ คิดว่าจะไม่ร้อน ที่ไหนได้ สี่สิบสององศา! ไม่ร้อนก็เหี้ย ผิวไหม้หมด


ตึง!


ก่อนจะเข้าเซเว่นนั้น.. รถชนหมาไอ้เหี้ย!


"ขับแล้วหนีหรอวะไอ้เวรเอ๊ย! " เมื่อรถคันนั้นขับผ่านไปไกลแล้วผมก็รู้เลยว่าเขาคงไม่กลับมาอีก คนเดี๋ยวนี้แม่งเหี้ยจัดๆ หมาก็ชีวิตนึงเหมือนกันอะ แม่งเอ๊ย


ผมสาปแช่งไอ้คนขับรถในใจก่อนจะลากสายตาไปมองดูเจ้าหมา มันร้องด้วยความเจ็บปวดกลางถนน คนแถวนั้นพากันยืนดูแต่ก็ไม่ทำอะไร ไม่มีใครช่วย ไม่แม้แต่จะทำอะไร มองดูแค่แป๊ปเดียวพวกเขาก็เดินผ่านเหมือนก่อนหน้านี้ไม่มีอะไรเกิดขึ้น ปล่อยให้รถขับผ่านร่างของหมาตัวนั้น


"แม่งเอ๊ย" ผมสบถอีกครั้งแล้วยืนมองดูมันหน้าเซเว่นต่อไป ดูเหมือนกระดูกขามันจะหัก เลือดของมันเปรอะพื้นถนนประปราย ตัวมันเองก็ไม่ได้ลุกขึ้นแถมยังนอนนิ่งอยู่แบบนั้น ท่าจะลุกไม่ไหวนะ


.


.


"ฮืออออ เอาด่องแด๊งผมคืนมา เอามา" เด็กชายวัยห้าขวบทำท่าจะคว้าร่างของหมาน้อยที่นอนแน่นิ่งมากอดทั้งน้ำตา เสียงสะอื้นร้องไห้ไม่หยุดตั้งแต่ชั่วโมงที่แล้วยังคงดังต่อไป ม๊าของเขากอดรั้งเขาไว้ ส่วนป๊าก็อุ้มร่างหมาน้อยแล้วเดินจากเขาไป


...ด่องแด๊งไปแล้ว หมาตัวแรกที่เลี้ยงและจะเป็นตัวสุดท้าย จากไปไม่กลับมาอีกแล้ว ด่องแด๊งโดนรถชน มันออกไปวิ่งเล่นข้างนอก พอเรียกก็ไม่ยอมมา ทั้งที่ปกติมันจะวิ่งมาหาทุกครั้งที่เรียก แต่ครั้งนี้ไม่


เด็กชายเดินตามหาจนทั่ว หาทั้งวันก็ไม่พบ วันต่อมาป๊าของเขาอุ้มด่องแด๊งมาให้ เป็นด่องแด๊งที่นอนนิ่งท่ามกลางเลือดที่เปื้อนเต็มตัว


"ด่องแด๊ง แด๊งๆๆ " เด็กน้อยเริ่มพูดเสียงสั่นเมื่อเรียกหมาของเขาแล้วแต่มันไม่ตอบสนอง "ป๊า มันเป็นอะไร"


"มันไปเกิดใหม่แล้ว"


"ทำไมต้องไป เล่นกับเรนไม่สนุกหรอ"


"สนุกสิ แต่หมดเวลาของมันแล้ว มันให้ป๊าพามาบอกลาหนู"


"ไม่อยากให้ไป" เด็กชายเบะปากน้ำตาเอ่อคลอ "ไม่ไปไม่ได้หรอ"


"มันไปแล้วลูก ทำใจนะ"


"แล้วใครจะเล่นกับผม"


"เดี๋ยวป๊าซื้อตัวใหม่ให้"


"ไม่เอา! จะเอาด่องแด๊ง ไม่ใช่ด่องแด๊งผมไม่เอา! "


"ไซเรน"


"ฮือออ ไม่เอา จะเอาด่องแด๊ง เอาด่องแด๊งผมมา เอามา" เด็กชายวิ่งหมายจะเข้าไปกอดร่างหมาที่รักแต่ก็โดนม๊าที่นั่งมองเขาแต่แรกคว้าร่างเข้าไปกอดไว้


"เรนอย่างอแง! "


"จะเอาด่องแด๊ง ฮือออ"


"มันไปแล้ว"


"ม๊าาา ปล่อยผม ฮื่ออออ ไม่ๆ ป๊าอย่าไป! ป๊าเอามันมา! ป๊า!!! "


.


.


นึกถึงตอนนั้นแล้วก็ได้แต่ยกมือปาดน้ำสีใสที่หางตา ผ่านมาก็หลายปีแล้วนะด่องแด๊ง คิดถึงแกจังเลย


เห้อ แดกอะไรไม่ลงแล้ว ผมสูดน้ำมูกเล็กน้อยก่อนจะหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาโทรหาซัน


" (ว่า) "


"มึงเอารถมารับกูที่เซเว่นใกล้คอนโดหน่อยดิ"


" (เป็นอะไร) "


"คน รีบๆ มานะ"


" (ร้องไห้หรอ) "


"บ้านแป๊ะมึงดิ เร็วๆ ได้ไหม" ซันรับคำก่อนจะตัดสายไป


ผมเฝ้ามองมันต่อไป โชคดีที่ไม่มีรถคันไหนเหยียบมันซ้ำ อย่างมากแค่เฉียดใกล้จนผมใจหายไปสามสี่รอบ ไม่นานนักรถซันก็มาถึง เขาลดกระจกลงมองผมด้วยสีหน้าไม่หือไม่อือ


"ช่วยเอาหมาตัวนั้นไปหาหมอหน่อย" ผมชี้นิ้วไปตรงกลางถนน


"แน่ใจนะว่ามันยังไม่ตาย"


"อย่ามาพูดหมาๆ! มันหายใจอยู่" ผมเผลอขึ้นเสียงใส่จนซันสะดุ้งเล็กน้อย


"อืม"


ซันเดินหลบรถไปหลายคันกว่าจะถึงกลางถนน พอถึงซันก็อุ้มมันข้ามถนนกลับมาแล้วเอามันไว้หลังรถ ผมตามไปดูแล้วว่าจะนั่งบนหลังรถเฝ้ามันด้วย แต่ซันดันเรียกผมซะก่อน


"ขึ้นรถเรน อย่าไปนั่งข้างหลัง มันร้อน" ซันที่เข้าไปนั่งในรถแล้วชะโงกคอออกมาบอกผม


"หมาก็ร้อน"


"มันทนได้"


"แล้วมึงทนได้ไหม นั่งตากแดดร้อนๆ สี่สิบสององศา ทนได้ไหม"


"..."


"มีอะไรที่คลุมมันได้ไหม"


"...มีเสื่ออยู่ฝืนนึง"


"หลังรถใช่ไหม" พอซันพยักหน้าผมก็ปีนขึ้นหลังรถแล้วเอาเสื่อบังแดดให้มัน หลังจากนั้นผมก็ขึ้นรถโดยมีกูเกิ้ลแมพเสียงสิรินำทางไปหาสัตวแพทย์ที่อยู่ใกล้ที่สุด


พอมาถึงก็ส่งเจ้าหมาให้สัตวแพทย์เลย


"มันโดนรถชนแล้วหนีครับ นอนนิ่งมาก แต่ผมว่ามันยังไม่ตาย คือ คุณหมอช่วยให้มันกลับมาเป็นเหมือนเดิมทีครับ" ผมรัวแร๊พใส่หมอ เขาก็พยักหน้าให้แล้วตรวจมันก่อนจะบอก


"ผมรักษาได้ครับ แต่ต้องใช้เวลาในการรักษา ผมจะผ่าตัดให้ คุณต้องพร้อมสำหรับค่าใช้จ่าย ถ้าพร้อมแล้วคุณอ่านรายละเอียดทั้งหมดแล้วเซ็นรับการยืนยันผ่าตัดนะครับ" ผมอ่านรายละเอียดแล้วจรดปลายปากกาเซ็น


"รอด้านนอกสักครูนะครับ หมอจะทำการผ่าตัดให้" ผมพยักหน้า ระหว่างรอซันก็เดินมาหาผมช้าๆ ด้วยสีหน้าย่ำแย่มาก ทุกอย่างเกิดขึ้นเร็วมากแบบไม่ทันตั้งตัว จู่ๆ ซันก็ล้มตัวลงแต่โชคดีที่ผมรับไว้ทัน


"ซัน ซัน" ผมเรียกแต่ก็ไม่มีการตอบรับใดๆ ผมเลยขอให้พยาบาลช่วยดูแลซัน ผ่านไปครึ่งชั่วโมงมันถึงฟื้น


"ไม่สบายหรอ" ผมวางมือทาบบนหน้าผาก มันไม่ได้ว่าอะไรแต่มองผมนิ่งๆ เป็นคำตอบแทน อะไรเห้ย กูสื่อสารกับมึงไม่รู้เรื่องเด้


ซันถอดเสื้อคลุมที่ใส่อยู่ออก พอเห็นผมก็ต้องตกใจที่แขนซันเต็มไปด้วยผดผื่น แถมยังหายใจฟืดๆ อีก "คะ คุณพยาบาลครับ" ผมตัดสินเรียกพยาบาล พอเขาเข้ามาผมก็ให้เขาดูอาการซัน "มันเป็นอะไรหรอครับ"


"ก่อนหน้านี้ได้ทานอะไรมารึเปล่าคะ"


"เปล่าครับ"


"คุณแพ้ขนสัตว์รึเปล่า" ซันนิ่งไปก่อนจะพยักหน้า


"เอ้า ไมไม่บอกกูวะ"


"ก็มึงไม่ได้ถาม"


"กูผิดก็ได้ ขอโทษแล้วกัน ตอนนี้เป็นไงบ้างอะ รู้สึกยังไง หายใจสะดวกไหมมียาแก้แพ้เปล่า" มันเกาแขนพลางตอบไม่มี เออดี ถามไปสี่ตอบมาหนึ่ง


"คุณพยาบาล..." ผมมองเธอแล้วเธอก็พยักหน้าให้


"ขอตัวไปจัดยาให้นะคะ ทางเรามีแก้ยาแก้แพ้ขนสัตว์ค่ะ รอสักครู่นะคะ" หลังจากพยาบาลเดินออกไปผมก็หันมาสนใจซันต่อ


"เป็นไงบ้าง ถอดเสื้อออกก่อนไหม คันมากเปล่า เฮ้ย อย่าเกา" ผมคว้ามือซันไว้ก่อนเจ้าตัวจะเกาจนแขนตัวเองถลอก แค่นี้มันก็แดงมากแล้ว


"คัน"


"ทีหลังบอกกูดิว่าแพ้ไรบ้าง"


"คิดไม่ออก"


"อ้าว"


"สัตว์ก็ได้ แพ้สัตว์อะไรอีก"


"หมา" ผมพยักหน้านั่งจ้องรอคำตอบมันต่อ แต่มันก็ไม่พูดต่อสักที


"อะไรอีก"


"แค่นี้"


"แล้วก็ไม่บอกว่าแค่นี้ นึกว่ามีอีก"


"อืม"


"ทำไมหายใจแรงจังวะ"


"หายใจไม่ค่อยออก"


"กูไม่มียาดมว่ะ ทำไงวะ ปกติเป็นแบบนี้มึงทำไงอะ"


"จำไม่ได้แล้ว"


"เอ้า! งั้นนอนก่อนไหม นอนๆ " ผมดันอกมันนอนลง "ดีขึ้นไหม"


"แย่กว่าเดิม"


"เออ งั้นมึงนั่งเหมือนเดิม" ผมดึงมันนั่งแล้วถามอีกที


"ดีขึ้นไหม" มันส่ายหัว


"โอ๊ย แล้วทำไงวะ"


"เรียกแด๊ดหน่อยดิ"


"อะไร ใช่เรื่องหรอ"


"เผื่อมันดีขึ้น"


"แล้วมันจะดีขึ้นได้ไง"


"อะดรีนาลีนพลุ่งพล่าน เลือดมันจะสูบฉีดหนัก"


"อะไรของมึงก็ไม่รู้ ไม่รู้เรื่องด้วยหรอก"


"ลองเรียกดู"


"พ่อ มึงรีบๆ หาย"


"ไม่ใช่พ่อ แด๊ดสิ"


"เหมือนกันแหละ ไม่เรียกหรอก ขนลุก"


"ตอนนั้นยังเรียกเลย"


"เพราะกูได้แดกขนม"


"เดี๋ยวซื้อให้อีก"


"โอเคแด๊ด ต้องการอะไรอีกไหมครับ"


"เห็นแก่กินว่ะ"


"ช่วงนี้กูต้องประหยัดเงิน"


"ยามาแล้วค่ะ" พยาบาลเธอเอายากับน้ำมาให้ก่อนจะบอกว่าเตรียมยาไว้ให้อีกเผื่ออาการแพ้กำเริบ


"ขอบคุณครับ" ผมบอกขอบคุณไป พยาบาลทำหน้าสงสัยเหมือนไม่รู้ว่าจะถามหรือไม่ถามดี "มีไรเปล่าครับ"


"เอ่อ จะเสียมารยาทไหมคะ ถามได้ใช่ไหม"


"ถามเลยครับ" เธอยิ้มเขินอายก่อนจะถาม


"คือ.. เป็นแฟนกันรึเปล่าคะ อยู่ด้วยกันแล้วน่ารักจังเลย"


"ห๊ะ" ถามจริงใช่ไหม ผมกับมันอะนะ!? "เปล่าครับ เพื่อนกัน"


"อ่าว งั้นหรอคะ โอเคค่ะ ขอโทษที่ถามคำถามที่มันเสียมารยาทนะคะ"


"ไม่เป็นไรครับ"


"อ้อ คุณหมอผ่าตัดเสร็จแล้วนะคะ ไปคุยกับคุณหมอแล้วชำระค่าใช้จ่ายได้เลยค่ะ"


"ขอบคุณครับ หายใจคล่องยัง ไหวเปล่า" ผมหันไปถามคนบนเตียง เขาพยักหน้ารับแล้วผมก็เข้าไปพยุงมัน หันไปมองทางคุณพยาบาลเธอก็อมยิ้มกรุ่มกริ่มให้ นี่เชื่อปะเนี่ยว่าเป็นเพื่อนกัน


หลังจากจ่ายค่ายาอะไรเสร็จผมก็มานั่งจ้องหน้าซันอีกครั้ง


"เอาไงกับหมาดีวะ"


"มึงช่วยมัน จะเลี้ยงหรอ"


"เลี้ยงได้ที่ไหน กูไม่ได้อยากเลี้ยงสักหน่อย อีกอย่างที่คอนโดเขาก็ไม่ให้เลี้ยง"


"แล้วไปช่วยมันทำไม"


"ก็สัตว์โลกด้วยกันอะมึง อีกอย่างมันโดนชนต่อหน้าต่อตากูเลยนะ"


"แล้วจะทำไง"


"คิดอยู่ หาคนรับเลี้ยงไหม แต่มันก็หลายวันอีกแหละ แล้วจะฝากใครดี" ซันส่ายหัว เฮ้อ เอามาไม่คิด จะทำไงต่อดีทีนี้


พวกเรานั่งคิดหน้าดำหน้าแดงจนคุณพยาบาลเธอพูดชี้ทางสว่างให้


"เอาแบบนี้ดีไหมคะ เดี๋ยวทางเราจะฉีดวัคซีนแล้วรับเลี้ยงให้ก่อน พอพร้อมแล้วค่อยรับกลับก็ได้ค่ะ"


"ได้หรอครับ" เธอพยักหน้า


"ขอบคุณนะครับ แล้วต้องทำยังไงบ้าง"


เราคุยกันเป็นอันเสร็จเรียยร้อย เริ่มจากฝากไว้เดือนนึงก่อนแล้วเสียค่าใช่จ่ายให้เดือนละห้าพัน ค่อยโล่งใจขึ้นหน่อย


ซันพาผมกลับคอนโด พอถึงห้องมันก็ล้มลงนอนเลย ท่าจะเหนื่อยจากภูมิแพ้ด้วยแหละ


ผมเดินไปเปิดเครื่องปรับอากาศแล้วนั่งดูวิดีโอสอนทำอาหาร วัตถุดิบก็ซื้อมาแล้ว ทีนี้จะทำอะไรก็ได้! วันนี้ผมว่าจะตอบแทนมันสักหน่อยด้วยการให้มันเป็นคนแรกที่กินอาหารฝีมือผม


ทำไรกินดี ผมพิมพ์ไปว่าอาหารง่ายๆ ผลการแสดงที่ขึ้นมาคือไข่ดาว ไข่เจียว ไข่ตุ๋นและสารพัดไข่ อืมม ไข่ไม่ได้ คนทำเยอะแล้ว เชย ทำไข่หวานดีกว่า ไหนดูดิ๊


ขั้นแรก ตีไข่เหมือนไข่เจียวเลย แล้วก็ใส่น้ำตาลตามความหวานที่ชอบ แล้วจะรู้ได้ไงว่ามันหวานแค่ไหน กะเอาหรอ?


ผมเทน้ำตาลใส่ครึ่งนึงถ้วยแล้วตีไข่ให้เข้ากัน มันจะหวานไปเปล่าวะ ใส่ซอสลงดีมะ เออใส่ๆ สักสามสี่ช้อน


ปื้ดๆๆ


หลังจากตีให้เข้ากันเสร็จก็ผมพบว่ากลิ่นของซอสมันชัดมาก หรือกูจะใส่ซอสเยอะไป ใส่น้ำตาลอีกดีกว่า


ฟืดด


ดูจากสีแล้วมันเหมือนจะเป็นสีซอสเลย แล้วนี่เขาใส่ซอสอะไรก็ได้ใช่ไหมวะ ใส่ซอสหอยลงไปก็ได้เหมือนกันแหละมั้ง อื้ม แต่กลิ่นมันชัดว่าเป็นซอสหอยมากกว่าไข่หวานซะอีก เห็นในอนิเมะที่ดูเขามีท่าโรยเกลือนี่หว่า เกลือใส่อะไรน่าจะอร่อย


คิดปุ๊บก็ทำปั๊บทันใด ท่าโรยเกลือในตำนาน! ชูมือขึ้นนิดหน่อย ย่อขาย่อก้น เชิ่ดหน้า ค่อยๆ โรยเกลือทีละน้อย อื้ม สมบูรณ์แบบ


ฉ่าาา


ไข่สีอมน้ำตาลกลิ่นซอสหอยอันเป็นเอกลักษณ์โดยไซเรนผู้คิดค้นและจัดทำ หื้มม หอม ไหนโชลีลากระทะมา!


ฟึ่บๆๆๆๆ


พลิกซ้าย พลิกขวา ฮ่อลล ไข่ไม่ตก หันหลังพลิกมั่ง


ตุ๊บ


"โอ๊ะ! " ชิบหายละ ไข่ตกพื้น หยิบขึ้นมาดีไหม เออๆ หยิบเถอะ มันตกแป๊ปเดียวเอง มาทอดใหม่ซันมันไม่รู้หรอก


"จะหยิบขึ้นมาทำใหม่? " เสียงคุ้นๆ เอ้า ก็มีคนเดียวในห้องนี่หว่า


"แหะๆ เปล๊า กูจะหยิบไปทิ้งอะ ตกแล้วใครจะหยิบขึ้นมาทอดใหม่กัน บ้าา"


"อืม บ้า" เหมือนโดนด่า


"เนี่ย กูว่าจะทำให้มึงแดก เสียดายที่มาตกพื้นก่อน"


"ทำเป็นหรอ ตอนนั้นบอกทำไม่เป็นหนิ"


"ใช่ๆ แต่กูศึกษาวิธีการทำไง ตอนนี้ทำเป็นแล้ว ลองชิมสักหน่อยมะ หน้าที่มันยังไม่โดนพื้นอะ"


"ไม่ล่ะ"


"ทำไมอะ กูอุษส่าทำให้มึงเลยนะ ทำให้มึงคนแรกเลยนะ"


"คนแรก" ผมพยักหน้าหงึกๆ "แต่ถ้ามันกินไม่ได้ถึงจะคนเป็นแรกก็ไม่กิน"


"ซันน" มันถอนหายใจ "ทิ้งไปก่อน ค่อยทำให้ใหม่วันหลังก็ได้"


"...อืม"


"อย่าหงอย"


"ยังไม่ได้หงอย"


"หงอยแล้วเนี่ย" มันยกมือลูบหัวผมเบาๆ ก่อนจะเดินออกไปแล้วให้ผมเก็บกวาดของที่ทำเลอะ


โห่ ไรเนี่ย อุษส่าตั้งใจทำมากเลยนะ เสียดายจัดๆ

Comment

  • ไม่มีคอมเม้น