Aa
Aa
Aa

  "ซี้ด เจ็บนะ อะ ทำเบาๆ หน่อยสิเดี๋ยวใครกลับมาเห็นเข้า ลำบากต้องหาเรื่องเเก้ตัวกันอีกนะ" ฉันซี้ดปากอาการปวดจี๊ดๆ ทำเอาหงุดหงิดไปหมด

 ฉันพรไพลินหรือน้ำฟ้า พนักงานฝ่ายการตลาดของยูเอกรุ๊ป บริษัทผลิตรถยนต์ชื่อดังของประเทศไทย ที่ตอนนี้กำลังโดนเพื่อนสนิทอย่างนิชาทำแผลบริเวณหัวเข่ากับริมฝีปากให้อยู่ เนื่องจากความบ้าของฉันเอง ที่เล่ากันว่าความรักทำให้คนตาบอดเป็นความจริงสินะ

5 นาทีก่อน

 "วิน หัวหน้าอยู่ไหม พี่เอาเอกสารจากฝ่ายออกแบบมาให้หัวหน้าว่าจะฝากไปให้เลขาหน้าห้องประธานหน่อย เดี๋ยวพี่ต้องไปคุยกับฝ่ายผลิตต่ออีกเเย่จริงๆ " เเพรวพูดขึ้นอย่างรวดเร็วเเกมบังคับ

 "หัวหน้าไม่อยู่ครับพี่เเพรว หัวหน้าไปติดต่อเรื่องการโปรโมทครับ" ชายหนุ่มนามว่า วิน ตอบกลับ ลางสังหรณ์ของเขาบอกว่าจะต้องเกิดเรื่องขึ้นอีกเเน่นอน มาเเบบนี้ไม่ปกติเอาเสียเลย

 "แย่เเล้วสิ เอกสารต้องให้ประธานเซ็นก่อนเที่ยงด้วยสิ งั้นพี่ฝากเราเอาขึ้นไปเเทนเเล้วกันนะ ฝากด้วยเเล้วกันนะ" พูดจบเเพรวก็จับซองเอกสารยัดใส่มือชายหนุ่มเเละรีบเดินหนีไปอย่างสบายใจ

 "เดี๋ยวสิครับพี่เเพรว เฮ้อไปซะเเล้ว ให้ตายเถอะงานก็ยังไม่เสร็จ สงสัยวันนี้ต้องอยู่ทำโอทีซะเเล้ว" วินบ่นขึ้นด้วยความหงุดหงิดว่าเเล้วไม่ผิดโดนยัดงานอีกตามเคย เด็กฝึกงานก็กลัวทำพลาดสุดท้ายเขาก็ต้องทำเองตลอด เงินเดือนดีจะใช้งานให้คุ้มเลยใช่ไหมเนี่ย

 "เเค่เอาเอกสารไปส่งให้ฉันไปเเทนเถอะค่ะ งานของฉันมีไม่เยอะมากจริงๆ นะคะ” ตื่นเต้นจังไม่มีปัญหาอยู่เเล้วไปส่งเอกสารหน้าห้องท่านประธานดีไม่ดีอาจได้เจอประธานด้วยก็เป็นได้เเค่คิดก็มีความสุขเเล้ว ฉันจะพลาดโอกาสดีๆ เเบบนี้ไปได้ยังไงคนอื่นอย่าหวังเลย

 "ดีเลยงั้นฝากด้วยนะครับ ระวังอย่าไปรบกวนท่านประธานนะครับ" ชายหนุ่มยิ้มออกมาด้วยความดีใจปนโล่งอกที่มีคนเสนอตัวไปทำงานเเทนตน เเถมยังเป็นพนักงานที่ทำงานด้วยกันมานานถึงจะไม่สนิทเท่าไรก็เถอะ นิสัยก็ดีอาสาไปส่งงานเเทนเเบบนี้สงสัยต้องไปคุยกับหัวหน้าให้น้องเขาเลื่อนขั้นหน่อยเเล้ว

 "รับทราบค่ะ" เมื่อได้รับอนุญาตฉันก็เอื้อมมือไปรับซองเอกสารมาถือไว้พร้อมกับจัดเสื้อผ้าเเละทรงผมให้ดูดีที่สุด ฉันต้องสวยที่สุดในสายตาของท่านประธานถึงจะไม่เคยคุยกันเเบบจริงๆ จังๆ ก็เถอะ พอจัดทุกอย่างเป็นที่เรียบร้อย ฉันก็รีบเดินตามเป้าหมายคือห้องของท่านประธานเเห่งยูเอกรุ๊ปสุดสวย แหมๆ เเฟนคลับทั้งหลายอิจฉากันเข้าไปวันนี้ขอโอกาสไปก่อนล่ะนะ

 เมื่อมีความสุขเวลามันมักจะผ่านไปเร็วเสมอ ทำไมกันนะ ตอนนี้ฉันพยายามเดินช้าๆ เพื่อจะได้มองประตูหน้าห้องที่ทำงาน ที่ภายหลังประตูมีร่างของท่านประธานทำงานอยู่ เเละดูเหมือนคำสาปเเช่งผ่านสายตาตลอดทางเมื่อสักครู่จะดลบันดาลให้ฉันสะดุดขาตัวเองจนริมฝีปากสวยๆ ไปจูบเข้ากับประตูห้องท่านประธานอย่างเหมาะเจาะ อะไรจะพอดีขนาดนี้ ฉันเป็นถึงหัวหน้าเเฟนคลับพิทักษ์ท่านประธานเลยนะ

  ปัง!! โครม!!

 "โอ๊ยเจ็บเป็นบ้าเลย กรี๊ดเลือดไหลด้วย โอ้มายก๊อดเลือดกำเดา” ฉันมองเลือดจากมือข้างที่ยกไปกุมจมูกด้วยใบหน้าเหยเกพร้อมหันซ้ายหันขวาจนเเน่ใจว่าไม่มีใครเห็นฉากหน้าอายเมื่อครู่

 "ใครน่ะ รำคาญ ออกไปซะ" เสียงเย็นๆ ติดรำคาญดังขึ้น

 หลังจากที่ฉันเตรียมจะสลบเพราะเลือดของตัวเองเสียงเย็นๆ อันเป็นเอกลักษณ์ของท่านประธานก็ดังขึ้น มีหลายครั้งที่เคยได้ยิน ครั้งนี้ก็ยังพูดน้อยจับใจความยากเหมือนเดิมไม่เปลี่ยนเเต่ไม่ว่ายังไง ท่านประธานก็ยังน่ารักอยู่ดี

 "ว๊าย น้องเป็นอะไรรึเปล่าคะ มาเดี๋ยวพี่ช่วยนะ"

 เสียงอุทานด้วยความตกใจดังขึ้นใกล้พร้อมเเรงพยุงที่ส่งมา เมื่อกี้ฉันดูเเล้วนะ ไม่จริงฉากอันน่าอับอายของฉัน ต้องหาวิธีปิดปากหล่อน

 "ขอบคุณค่ะ พี่คือ...” ฉันเอ่ยขอบคุณไปตามมารยาททันทีที่เห็นหน้าหญิงสาว สวย นั่นคือความคิดเเรกเหนือสิ่งอื่นใดพี่เขาเห็นหรือเปล่า อยู่ฝ่ายไหนกัน ทำยังไงดี

 "พี่ชื่อมรกต เรียกพี่หยกก็ได้นะ พี่เป็นเลขาของท่านประธานมีอะไรจะให้พี่ช่วยก็บอกนะ เเต่ก่อนอื่นพี่ว่าเราเช็ดเลือดกำเดาก่อนดีกว่านะ มาพี่ช่วย" พี่หยกหยิบผ้าเช็ดหน้าขึ้นมาซับเลือดให้ฉันเบาๆ

 "ขอบคุณมากค่ะ" ฉันเอ่ยขอบคุณพร้อมก้มหัวเล็กน้อย

 “พี่เห็นอะไรหรือเปล่าคะ” บ้าจริงเลขา ถึงท่านประธานจะไม่รู้จักฉันเเต่ความขายหน้ายังคงอยู่ ฉันได้เเต่ยิ้มกลับไปอย่างหวั่นๆ

 "อืมน้องพรไพลิน สินะ ว่าเเต่เรามาทำอะไรบนนี้ รู้ไหมชั้นนี้ถ้าไม่ได้รับอนุญาตห้ามเข้านะจ๊ะ" พี่หยกพูดขึ้นด้วยความสงสัยเพราะปกติชั้นนี้มีคนเดินผ่านเพียงไม่กี่คนเท่านั้น ส่วนมากจะเป็นคนประจำที่คุ้นหน้าคุ้นตาเพราะมีคนรับเอกสารหน้าลิฟต์ถึงจะมีคนอยากรู้อยากเห็นที่เข้ามาถึงชั้นในสุดบ้างก็เถอะ

 "คือว่าหนูเอาเอกสารมาให้เเทนหัวหน้าค่ะ เเต่ว่าพี่หยกรู้ชื่อหนูได้ยังไงกันคะ" ฉันมองหน้าพี่หยกด้วยความสงสัยก็ยังไม่ทันได้แนะนำตัวเลย บ้าที่สุดพี่เขารู้ชื่อเราด้วยอับอายคูณสองอย่างไม่ต้องสืบ

 "ฮ่าๆ มันติดอยู่นะ ที่อกเสื้อน้องไงน้องไพลิน ศิริปัทมกร" พี่หยกพูดพร้อมกับเอานิ้วชี้ไปที่ป้ายชื่อฉัน

 "ติดอยู่จริงๆ ด้วย" ลืมไปเลยว่าเคยมีมันอยู่ พูดไปฉันก็ขยับป้ายชื่อเล่นไปมา

 “พี่ไม่เห็นอะไรใช่ไหมคะ” ฉันเข้าเรื่องทันทีที่ได้โอกาส

 “อืม พี่ไม่เห็นเเล้วกันนะ จริงๆ ทางนี้ไม่ใช่ทางที่น้องเอาเอกสารมาส่งใช่ไหมล่ะ ถึงจะมีพวกแฟนคลับบางคนที่พยายามผ่านทางนี้ก็เถอะ น้องน่ารักพี่จะทำเป็นไม่รู้ไม่เห็นให้เป็นพิเศษเเล้วกันนะ วันหลังเดินดีๆ ล่ะ” พี่หยกพูดขึ้นอย่างไม่ใส่ใจพร้อมยิ้มบางๆ

 “แหะ แหะ ขอบคุณมากค่ะ วันหลังแอบมาจะระวังตัวมากกว่านี้นะคะ” ฉันได้เเต่หัวเราะแห้งๆ อย่างจนมุมโดนมองออกซะขาดลอยเลย

 “ยังมีครั้งหน้าอีกน้องใจกล้าไม่เบา พี่ห่วงนะจะบอกให้”

 “พี่อยากเป็นศัตรูกับหนูเเละคนอื่นพี่คิดดีเเล้วใช่ไหมคะ”

 “ไม่รู้สิคะ พี่อยู่กับท่านประธานทั้งวัน สนิทกันม๊ากมาก” พี่หยกยักคิ้วเเละส่งสายตามาอย่างผู้ชนะ

 “แอบชอบ แอบเป็นเเฟนคลับอย่างเดียวไม่ดีเเน่ ต้องทำอะไรสักอย่าง” พึมพำ พึมพำ

 เพราะแบบนั้นไงฉันถึงได้ถึงมาแอบทำแผลเเบบนี้ ถ้าใครรู้เข้าว่าแอบมองประตูเพลินไปจนได้จูบกับประตูสมใจอยาก คงอับอายไปชั่วลูกชั่วหลานกันพอดี หึประชด

 "เอาเสร็จเเล้ว เเก ปะ ไปกินข้าวกัน จะได้รีบมาทำงาน" เพื่อนสนิทของฉันพูดขึ้นอย่างหิวโหย ปกติมันก็หิวตลอดเวลาทำไมมันไม่อ้วนฉันล่ะไม่เข้าใจจริงๆ

 "ร้านป้าศรีนะ" ฉันเลือกร้านเหมือนอย่างเคย คงสงสัยกันสินะว่าร้านป้าศรีคือที่ไหนจริงๆ ป้าแกชื่อสมศรี เลยเรียกสั้นๆ ว่าป้าศรี ร้านป้าแกขายอาหารตามสั่งอยู่ใกล้ๆ กับบริษัทเป็นร้านประจำของฉันกับนิชารวมถึงพนักงานอีกหลายๆ คน รสชาติอร่อย อยู่ใกล้ที่ทำงาน อะไรจะโชคดีแบบนี้ ราวกับโชคชะตากำหนดมา

 "ไปเร็วหิวเเล้ว" นิชาจับเเขนฉันเเล้วดึงให้ไปด้วยกันทันที

 "รู้เเล้วๆ แกไปหิวอะไรมาเมื่อเช้าฉันเห็นแกก็กินมาไม่ใช่เหรอคะ คุณนิชา" ฉันที่ถูกนิชาดึงก็ทำได้เเต่เดินตามไปอย่างปลงๆ พระเจ้าช่างโหดร้ายฉันกินนิดกินหน่อยอ้วน เเต่นิชามันกินได้กินดี

 "ส่วนเมื่อเช้าก็ส่วนเมื่อเช้าไงคะ คุณพรไพลิน ตอนนี้เที่ยงเเล้วไม่เกี่ยวกัน" นิชาอธิบายพร้อมลูบท้องของตัวเองไปมาอย่างหิวโหย

 "จ้าๆ ไม่เกี่ยวก็ไม่เกี่ยว"

  ร้านป้าศรี 11.34

  "ป้า เอาข้าวผัดต้มยำไข่ดาวไม่สุกเอาเผ็ดๆ แซ่บๆ นะป้า นิชา แกกินเหมือนเดิมปะ แล้วก็เอาข้าวผัดทะเลนะป้า" ฉันสั่งอาหารทันทีโดยไม่สนใจคำตอบ หมั่นไส้ไม่อ้วนดีนักยัยเพื่อนบ้า

  "ยังไงก็ต้องเหมือนเดิม แกจะถามทำไมฮะ ในเมื่อแกก็สั่งไปแล้ว" นิชาพูดด้วยความงอนพร้อมทั้งเมินหน้าหนีไป

  "ชิ...คนอุตส่าห์หวังดี "ฉันเเกล้งสะบัดหน้าทำเป็นงอนใส่เพื่อนตัวดีเช่นกัน

  ผลัวะ!!

  "นิชาไอ้เพื่อนชั่ว แกตีฉันเดี๋ยวฟ้องแม่เลย แบร่" ฉันยกมือขึ้นมาลูบหัวน้อยๆ อันแสนน่ารักของตัวเองที่บาดเจ็บจากการโดนตีจากเพื่อนเเสนดี ไม่พอยังขู่ทิ้งท้ายไว้ด้วย "จะฟ้องแม่"

  ในที่นี้ไม่ได้หมายถึงแม่ฉันนะ เเต่หมายถึงแม่ของนิชาต่างหาก ฮ่าๆ ฉันดันไปรู้ความลับเรื่องเเม่ของมันเข้าเลยยกมาขู่ซะเลย

  "อีฟ้า" นิชาที่ทำได้เพียงจ้องมองฉันอย่างไม่มีทางสู้

จ้อง

"ฟ้า"

จ้อง

"คุณฟ้า" น้ำตาคลอ

  ยอมเเล้วๆ ฉันโยกหัวนิชาไปมาอย่างเอ็นดูฉันก็ขู่มันไปงั้นเเหละ

  "แกห้ามไปฟ้องเเม่ฉันนะ เข้าใจ"นิชาพูดพร้อมกับเอามือฉันออกจากหัวตัวเอง

  "ก็ไม่รู้สินะ อิอิ"การได้แกล้งเพื่อนเป็นความสุขอย่างหนึ่งของฉันเลย มีความสุขจัง

  "เดี๋ยวเลี้ยงข้าวเลย" นิชาจับมือฉันคิดจะติดสินบนกันสินะ

  "....."

  "เดี๋ยวพาไปกินติม"

  เเค่กินไอติมมันยังไม่พอเพื่อนรักฉันเงียบตอบ

  "....หมูกะทะด้วย" ฉันเขย่ามือนิชาเพื่อเเสดงให้เห็นถึงข้อตกลงที่เสร็จสิ้น ไหนๆ นิชามันจะเลี้ยงทั้งทีต้องเอาให้คุ้มเลยมันรวยจะตาย

  "OK อยากกินวันไหนก็ทักมาเเล้วกัน เเต่ไม่ใช่วันนี้นะวันนี้ต้องไปกินข้าวกับเเม่ตอนเย็น" นิชาโบกโทรศัพท์ที่มีตารางนัดไปมาอย่างมีความสุข

  "จ้า" ฉันตอบ

  เเต่ว่าวันนี้คนเยอะจังเลยถึงปกติจะเยอะอยู่เเล้วก็เถอะ ขนาดฉันยืนคุยกับนิชาตั้งนานยังไม่มีโต๊ะไหนว่างเลย เเถมเข้างาน12.10 ด้วยสินะหรือจะเอาไปกินที่โต๊ะดี? ในระหว่างที่ฉันกำลังคิดในใจอยู่นั้น

  "ป้าถ้าจะรอกินที่ร้านอีกนานไหมป้า" นิชาก็ถามป้าด้วยความร้อนรนเช่นกัน


"นิชามาช้านะวันนี้ กินที่ร้านรออีก30-40นาทีวันนี้มีงานลดราคาคนเยอะต้องรอหน่อย ถ้าใส่กล่องอีก7คิวประมาณ15นาทีได้ เอาไง" ป้าถามทั้งๆ ที่มือยังถือตะหลิวผัดผักอยู่

  "งั้นเอาใส่กล่องก็ได้ป้า"ฉันชิงตอบตกลงทันทีเมื่อมีทางเลือกที่ดีกว่า

  "OK ไปหาที่ยืนรอเลยเดี๋ยวป้าเรียกคิว" ป้าพูดเเละชี้นิ้วไปจุดรอคิวที่มีคนอยู่ไม่มากไม่น้อย

  "ไปฟ้า ไปหาที่ยืนรอกัน"

  นิชาพูดจบก็ดึงมือฉันไปหาที่ยืนรอข้าวทันทีมันกลัวฉันร้อนหรือมันหิวกันเเน่

  13นาทีผ่านไป ไวเหมือนโกหก

  "คิวที่7 คิวที่8 ไปจ่ายเงินเเล้วหยิบได้เลยค่ะ คิวที่9หมูหมดเปลี่ยนเป็นไก่ได้ไหมคะ" ป้าศรีเริ่มถามลูกค้าเพราะวันนี้ขายดีทำให้ของเริ่มหมดเร็วกว่าปกติจะได้กินไหมเนี่ย

  "ถึงคิวเราเเล้วไปฉันหิวเเล้ว" เสียงนิชาดังขึ้นด้วยความสุข

  "จร้าๆ ไปๆ " หลังจากรอมาได้ประมาณ10นาทีก็ถึงคิวฉันกับนิชาสักที พอเรียกคิวเสร็จป้าศรีแกก็ไปคุยกับลูกค้าคนอื่นทันที เเถมเอาตะกร้าใส่เงินมาวางให้จ่ายเองทอนเองอีก ป้าแกใจกล้าจริงๆ

  "ฟ้า มันมีสองถุงอะมีสองกล่องเหมือนกันด้วย" นิชาพูดขึ้นขณะที่กำลังเปิดเช็กของข้างใน

  "ป้า ถุงไหนของหนูอะ" ฉันถามป้าแกทันทีเเต่ป้าแกกำลังยุ่งอยู่คงไม่ได้ยินพอหันกลับไปก็เป็นดังคาดมันเปิดไปเเล้วใช่มันเปิดกล่องไปแล้วไอ้เพื่อนบ้า

  "ฟ้าๆ อันนี้ไงของเราดูดิๆ ข้าวผัดทะเลของฉัน ฮ่าๆ "

  "นิชาอีเพื่อนชั่วแกไปเปิดอย่างนั้นได้ไงถ้ามันไม่ใช่ของเเกใครจะกล้ากิน" ฉันพูดไม่พอเลยตบหัวนิชาไปหนึ่งที โทษฐานทำอะไรไม่คิด

  "น่าๆ ไปเถอะหิวเเล้วเดี๋ยวหมดพักเที่ยงไม่ได้กินกันพอดี"

  พอยัยนิชาพูดจบมันก็ลากเเขนฉันกลับไปกินข้าวที่ออฟฟิศทันทีฉันมีเเต่เพื่อนดีๆ ดีมาก ดีจนไมเกรนขึ้น



Comment

  • ไม่มีคอมเม้น