Aa
Aa
Aa

บทที่ 2 ลองก่อนสิบปี?


ตัวเลขในหน้าต่างเกี่ยวกับอายุขัยเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว


สามสิบสี่... ยี่สิบเอ็ด... สิบสาม...


จนกระทั่งหยุดอยู่ที่ "หนึ่ง"


แน่นอนว่า หลังทักษะดาบปราบปีศาจก็เพิ่มระดับอย่างรวดเร็วเช่นกัน


【โฮสต์ฝึกฝนทักษะดาบปราบปีศาจอย่างหนัก และผ่านระดับเริ่มต้นในปีที่แปด】


【โฮสต์ฝึกฝนต่อไป ในปีที่สิบเจ็ด โฮสต์ก็ก้าวข้ามขีดจำกัดสู่ระดับความสำเร็จที่ยิ่งใหญ่】


【ยี่สิบเก้าปี ทักษะดาบปราบปีศาจของโฮสต์บรรลุขั้นสุดยอด ระดับสมบูรณ์แบบ】



【สามสิบสามปี โฮสต์บรรลุระดับสมบูรณ์แบบ หลังจากนั้นโฮสต์ยังคงหมกมุ่นอยู่กับทักษะนี้ ดูเหมือนจะมีความเข้าใจใหม่ แต่มันยังนี้ไม่ชัดเจน โฮสต์ไม่สามารถพัฒนาทักษะได้สำเร็จ...】


ทักษะดาบปราบปีศาจ (ระดับสมบูรณ์แบบ)


……


เสินอี้ล้มลงบนพื้น ความคิดของเขาจดจ่ออยู่กับมือขวาที่ถือดาบอยู่


เขาต้องการยืนยันว่าหลังจากสูญเสียอายุขัย เขาจะกลายเป็นชายชราที่เหี่ยวแห้งหรือยังคงรักษารูปลักษณ์ที่อ่อนเยาว์ไว้


เมื่อมองดูหลังมือ ผิวของเขายังคงเรียบเนียน นิ้วมือทั้งห้าเรียวบางและยืดหยุ่น


สิ่งที่น่าประหลาดใจยิ่งกว่าคือ ร่างกายของเขาไม่ได้แก่ลง แต่กลับแข็งแรงและทรงพลังขึ้นอย่างรวดเร็ว


ราวกับว่าเสินอี้ได้ฝึกฝนดาบอย่างจริงจังเป็นเวลาสามสิบสามปี ไม่แตะต้องสุราและนารี เก็บกดความคิดทั้งหมดและอุทิศชีวิตให้กับดาบในมือ


......


ยามค่ำคืนมืดมิด สวนเงียบสงัด


ปีศาจสุนัขร่างใหญ่ก้มตัวลงเล็กน้อย เดินมาที่ประตู ยื่นมือเท้าผนัง ชะโงกหน้าเข้ามาในบ้าน


ดวงตาสีเหลืองอ่อนจ้องมองผู้คนในบ้านอย่างเย็นชา


เมื่อได้กลิ่นเหม็นสาบของสัตว์ป่า พ่อเฒ่าหลิวพิงผนังแน่น ตาเหลือก เฉียดจะสลบอยู่รอมร่อ


หากเผชิญกับเสินอี้ เขายังสามารถรวบรวมความกล้าจับไม้เท้าไว้ได้ แต่เมื่อเผชิญกับหัวสุนัขที่อยู่ใกล้แค่เอื้อม เขาถึงกับพูดอะไรไม่ออก


โชคดีที่สายตาของอีกฝ่ายละจากตัวเขาไปอย่างรวดเร็ว มุ่งไปที่เด็กสาวที่ดูน่าอร่อยกว่า


ปีศาจสุนัขไม่พูดอะไรมาก เพียงยื่นอุ้งเท้าออกไปอย่างใจเย็นและกระดิกปลายนิ้ว


ท่ามกลางความหวาดกลัว เด็กสาวจ้องมองอย่างว่างเปล่า ก้าวขาออกไปอย่างงุนงง มุ่งหน้าไปยังอีกฝ่าย มองดูกรงเล็บแหลมคมของปีศาจสุนัขตะปบลงบนลำคอของนาง


ทันใดนั้น นางก็รู้สึกเหมือนมีฝ่ามืออุ่นๆ มาจับที่ข้อมือไว้ ดึงตัวนางไม่ให้เดินต่อไป


เด็กสาวตระกูลหลิวตัวสั่น เชิดหน้าขึ้นมอง


เสินอี้นั่วอยู่บนพื้น เขาขมวดคิ้วเล็กน้อย ลุกขึ้นยืนโซเซไปมา ปัดฝุ่นออกจากตัว เขายังคงใช้ท่าทางไล่แมลงวันพูดว่า "ไปให้พ้น ไปยืนหลบตรงมุมโน่น"


“……”


เด็กสาวรู้สึกถึงกรงเล็บที่รัดแน่นบนคอ อารมณ์ของนางพังทลาย ไม่เข้าใจเลยว่าใต้เท้าเสิ่นกำลังพูดอะไรไร้สาระ


จะไปทางไหน? ให้ไปที่ไหน?


มุมปากของปีศาจสุนัขปรากฏรอยยิ้มที่น่ากลัว "ไอ้เสินอี้จอมทรยศ เจ้าจะรีบร้อนทำไม? ลำดับต่อไปก็ถึงตาเจ้าแล้ว"


ท่ามกลางสายตาของทุกคน แสงสีเงินสว่างวาบแล่นผ่านภายในบ้าน มันเย็นยะเยือกและเจิดจ้า!


เสินอี้เอียงตัวถือดาบยาว ใบดาบสีเงินสะท้อนใบหน้าไร้อารมณ์ของเขาอย่างเลือนราง


ไม่รู้ว่าตอนไหนที่บนใบดาบมีรอยเลือดปรากฏขึ้น ไหลรวมกันที่ปลายดาบ กลายเป็นเม็ดเลือดหยดลงพื้น


สิ่งที่ตกลงมาพร้อมกับหยดเลือดคือแขนที่แข็งแรง และขนที่เงางาม


"อาวู๊--"


ในพริบตา เสียงร้องโหยหวนด้วยความเจ็บปวดของปีศาจสุนัขดังก้องไปทั่วบ้าน มันไม่ทันได้เห็นแม้แต่เงาของดาบ หรือแม้กระทั่งตอนที่อีกฝ่ายชักดาบ


เมื่อไม่มีกรงเล็บกักขัง เด็กสาวก็เซไปชนมุมผนัง ขดตัวสั่นด้วยความหวาดกลัว


ในสายตาที่พร่ามัวด้วยน้ำตา เงาร่างผอมบางตรงหน้าก็พุ่งเข้าโจมตีอย่างฉับพลัน


ดุจดั่งเทพเจ้าแห่งความตายที่โหดเหี้ยม แขนที่ทรงพลังกางออก ห้านิ้วมือคว้าขนยาวบนคอของปีศาจสุนัขอย่างรุนแรง ดึงมันลงมาด้วยแรงกระชาก


ภายใต้พลังอันมหาศาล ปีศาจสุนัขรู้สึกเจ็บปวดอีกครั้ง ร่างกายขนาดภูเขาหินพังทลายลงสู่พื้น!


โดยไม่ให้โอกาสมันได้ตั้งตัว เสินอี้คุกเข่าลงบนต้วปีศาจสุนัข ยกมือทั้งสองข้างขึ้นเหนือศีรษะ จับด้ามดาบตั้งตรง ดาบในมือของเขาพุ่งแทงลำคอของมันอย่างโหดเหี้ยม


เสียง "ฉึก!" ดังขึ้น


เลือดสุนัขร้อนๆ สาดกระเซ็นไปทั่ว เปื้อนใบหน้าของเสินอี้ เติมเต็มความโหดเหี้ยมให้กับใบหน้าที่หล่อเหลาของเขา


...


เสินอี้เหยียบหัวสุนัขแล้วดึงดาบออกจากเนื้อด้วยมือที่มั่นคงอย่างยิ่ง


แม้จะเพิ่งฆ่าปีศาจเป็นครั้งแรก แต่ทว่าท่วงท่าการสังหารนั้นช่างคล่องแคล่ว ราวกับว่าการฆ่าฟันนี้ถูกฝังรากลึกในสัญชาตญาณ


ร่างกายเปื้อนเลือด กลิ่นคาวเน่าโชยคละคลุ้ง


เขาควรจะรู้สึกตื่นตะลึง อาเจียนออกมา แต่ร่างกายกลับสงบนิ่งจนน่าประหลาด


นี่คือทักษะดาบปราบปีศาจ การฆ่าปีศาจนั้นช่างธรรมดาสามัญดั่งการกินข้าวดื่มน้ำจริงๆ


เขาชักดาบออก จ้องมองดวงตาที่ไร้วิญญาณของปีศาจสุนัข เช็ดใบดาบให้สะอาดบนขนของมัน


อย่าว่าแต่สัตว์เดรัจฉานตัวนี้เลย แม้แต่เสิ่นอี้เองก็ไม่คาดคิดว่าการต่อสู้จะจบลงได้อย่างรวดเร็วเช่นกัน


สามสิบสามปีแห่งการฝึกฝนดาบ พลังที่สะสมอยู่ภายในร่างกายของเขาเกือบจะถึงขีดสุดของมนุษย์


เมื่อทำทุกอย่างเสร็จสิ้น เสินอี้หันกลับไปมองพ่อลูกที่มุมห้อง


เขาเห็นเพียงความงุนงงในดวงตาของทั้งคู่ แต่ทว่ากลับมีเพียงความหวาดกลัวที่ลึกล้ำ ไม่มีความรู้สึกขอบคุณแต่อย่างใด


เสินอี้ไม่สนใจ เก็บสายตาของเขา มองข้ามเรื่องนี้ไป


เมื่อครึ่งชั่วโมงก่อน เขาเพิ่งจะพยายามถอดเสื้อผ้าของเด็กสาว  เป็นไปไม่ได้ที่อีกฝ่ายจะไว้วางใจเขา


คาดว่าทั้งคู่คงคิดว่านายท่านเสิ่นผู้นี้ และปีศาจเกิดการต่อสู้ภายใน


“…”


เขาเก็บดาบไว้ข้างเอว เตะศพปีศาจสุนัข ก้าวเดินออกไปที่สวน


“ใต้เท้าเสิ่น…ท่านต้องการ…”


เด็กสาวตระกูลหลิวมองข้อมือของตัวเองที่เพิ่งถูกจับ ยกใบหน้าที่สกปรกขึ้นอย่างระมัดระวังและพูดว่า "ท่านต้องการ เอ่อ...พันแผลบนศีรษะก่อนไหม?"


เมื่อได้ยินคำถามนี้ แก้วตาของชายชราก็พลันหดตัวลง


เด็กสาวโง่เขลาผู้นี้ พูดอะไรช่างไม่คิดเอาเสียเลย  อย่าลืมว่าแผลนั้นเกิดขึ้นได้อย่างไร?


ในสายตาของชายชรา เสินอี้ในตอนนี้ดูน่ากลัวยิ่งกว่าปีศาจสุนัขถึงสิบเท่า!


เสินอี้หยุดชะงัก เขาชะลอฝีเท้าลง


ชั่วครู่ต่อมา เขาหันกลับมาพูดว่า "ได้"


สองชาตินี้เขาไม่เคยทำอะไรดีๆ สักเท่าไร ดีใจที่ได้ทำสักครั้ง ถ้าไม่มีปฏิกิริยาอะไรเลย คงจะโกหกตัวเองว่าไม่สนใจ


ไม่มีเหตุผลให้ปล่อยให้ผู้กล้าเดินกลับบ้านด้วยตัวเอง


ไม่ต้องถึงขั้นตอบแทนด้วยร่างกาย แต่อย่างน้อยก็ควรมีน้ำชาร้อนๆ มากลั้วคอก็พอ


เสินอี้เดินมาที่เตียง ชายชราตระกูลหลิวรู้สึกหวาดกลัว แต่ด้วยความชำนาญ เขาคว้าผ้าเช็ดตัวที่สะอาดที่สุดมาเช็ดคราบเลือดที่ท้ายทอยของเสินอี้ โดยเด็กสาวร่างผอมบางคอยช่วยเหลืออย่างอึดอัด



ทันใดนั้น หน้าจอก็ปรากฏขึ้น


ข้อความแจ้งเตือนที่ไม่คุ้นเคยดึงดูดความสนใจของเสินอี้ทันที


【สุนัขจิ้งจอกปีศาจที่เพิ่งเริ่มต้นการฝึกฝน ยังไม่ถึงอยู่ขอบเขตเริ่มต้น(ฉู่จิ้ง) มีอายุขัยทั้งหมดหนึ่งร้อยเจ็ดสิบห้าปี เหลืออายุขัยอีกหกสิบสามปี พลังงานทั้งหมดถูกดูดกลืนแล้ว】


【ศิลปะการต่อสู้ในปัจจุบัน】


ทักษะทะลวงกระดูก (ระดับสูง)


ทักษะดาบปราบปีศาจ (ระดับสมบูรณ์แบบ)


【อายุขัยที่เหลืออยู่ในปัจจุบัน: หนึ่งปี】


【อายุขัยของปีศาจ: หกสิบสามปี】


【อายุขัยของปีศาจสามารถนำมาใช้หล่อเลี้ยงศาสตร์การต่อสู้ แต่ไม่สามารถแปลงเป็นอายุขัยของตนเองได้】


“……”


เสิ่นอี้สั่งให้พ่อลูกจัดการศพปีศาจสุนัข ส่วนตัวเขาเองก็เริ่มครุ่นคิดกับสิ่งใหม่นี้


ต้องบอกตามตรงว่าความรู้สึกว่างเปล่าหลังจากเติมเงินนั้นทรมานคนมากจริงๆ


เมื่อมองไปที่อายุขัยที่เหลือเพียงหนึ่งปี เสินอี้ก็เงียบไปนาน ทันใดนั้นเขาก็อยากตบหน้าตัวเอง


เห็นได้ชัดว่ายี่สิบเก้าปี เขาก็สามารถบรรลุระดับสมบูรณ์แบบของทักษะดาบปราบปีศาจได้ แต่แม่งดันอยากโชว์ออฟ เลยเสียเวลาไปเปล่าๆ อีกสี่ปี


แม้ว่าเขาจะไม่รู้สึกผูกพันกับโลกนี้มากนัก แต่เปรียบเหมือนมันเป็นเกม การได้เล่นต่ออีกสักสองสามปีมันก็คงจะดี


"ดังนั้น หมายความว่าการฆ่าปีศาจ เราก็สามารถใช้อายุขัยที่เหลือของพวกมันมาแทนที่ของตัวเองเพื่อฝึกฝนศาสตร์การต่อสู้ได้?"


"ปีศาจสุนัขสามารถมีชีวิตอยู่ได้เกือบสองร้อยปี นี่มันเวอร์เกินไปแล้ว"


เสินอี้รู้สึกประหลาดใจเล็กน้อย


แต่แล้วเขาก็นึกได้เรื่องหนึ่ง


ถ้าปีศาจมีอายุยืนยาวมากขนาดนี้ แล้วมนุษย์ไม่มีวิธีเพิ่มอายุขัยบ้างหรือ?


ถ้าเป็นอย่างนั้น จริงๆ แล้วคนที่ควรเป็นเจ้าหน้าที่ถือดาบ น่าจะเป็นเจ้าปีศาจสุนัขตัวนั้น ไม่น่าจะเป็นเจ้าหน้าที่ของเผ่าพันธุ์มนุษย์


"ช่างมันเถอะ คิดมากไปก็ไม่มีประโยชน์"


"เมื่อกี้ตอนฝึกทักษะดาบปราบปีศาจ ดูเหมือนจะพูดถึงความคืบหน้าใหม่ใช่ไหม?"


ตอนนี้เสินอี้มีอายุขัยของปีศาจหกสิบสามปี รู้สึกเหมือนรวยขึ้นมาทันทีแบบงงๆ


อือ...ลองใช้สักสิบปีก่อนดีไหม?


Comment

  • ไม่มีคอมเม้น